ฟิลเลอร์คาง หรือที่เรียกกันว่า การฉีดฟิลเลอร์แก้ไขคางหุบ เป็นการปรับโครงหน้าให้มีรูปทรงที่ได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น อย่างเช่นบริเวณคางที่อาจดูกลมและเรียบแบน หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ศัลยกรรมคาง, ฉีดโบท็อกซ์ปลายคาง ก็กำลังได้รับความสนใจอยู่ในปัจจุบัน
และกรณีที่ทำศัลยกรรมปรับรูปหน้าไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถปรับโครงหน้าให้สมดุลได้ กรณีนี้สามารถฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อปรับความสมดุลให้กับใบหน้าได้เช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ควรจะศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์คางเอาไว้อย่างละเอียด
ใช้เวลาฉีดฟิลเลอร์ไม่นาน อัตราเกิดผลข้างเคียงมีน้อย
สำหรับวิธีการนี้กำลังได้รับความนิยมเนื่องจากไม่ต้องผ่าตัด จึงอยากแนะนำโดยเฉพาะผู้ที่ต้องการมีใบหน้าสมส่วน และไม่มีปัญหามากถึงขึ้นผ่าตัด มีความเสี่ยงและความยุ่งยากในการดูแลหลังทำ น้อยกว่า การผ่าตัดโดยทั่วไป
อีกทั้งยังใช้แก้ปัญหาเคสคางหุบ ซึ่งมีสัดส่วนของคางไม่ชัดเจน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาโครงหน้าในส่วนโหนกแก้มหรือกรามเพียงเล็กน้อย แต่เนื่องจากคางผลุบเข้าไปจึงทำให้ใบหน้าดูเป็นสันหรือเหลี่ยม ก็สามารถปรับแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์
และข้อดีในการฉีดฟิลเลอร์คางจะใช้เวลาเพียง 5-10 นาที สามารถยืนยันผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ แต่วิธีเสริมคางด้วยซิลิโคนแบบดั้งเดิมจะมีข้อเสียคือการผ่าตัดลงบนผิวหนังนั่นเอง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการบวม, รอยช้ำ หรือความเจ็บปวดได้ และอาจต้องใช้เวลาพักฟื้นอย่างน้อย 1 สัปดาห์
ขั้นตอนโดยรวมของการฉีดฟิลเลอร์คาง และ ข้อควรระวังหลังทำ
ก่อนอื่นจะต้องปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในส่วนการดำเนินการนั้นจะใช้ยาชาแบบเนื้อครีมทาบนใบหน้า หลังจากนั้นจะทำการดีไซน์ขอบเขตการทำเอาไว้ และทำการอธิบายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ขั้นตอนต่อไปคือการฆ่าเชื้อ และจึงทำการฉีดฟิลเลอร์ เมื่อฉีดเสร็จแล้วจะทำการตรวจเช็คบริเวณดังกล่าว
สำหรับข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์คาง อย่างแรกเลย คือ การหลีกเลี่ยงการเข้าซาวน่า, สปา และแช่น้ำร้อน เป็นเวลา 1 สัปดาห์หลังทำ อาจจะเกิดรอยช้ำขึ้นเล็กน้อย แต่ปกติแล้วจะค่อยๆจางลงภายใน 1-2 สัปดาห์ หรืออย่างมากภายใน 1 เดือน นอกจากนี้ห้ามถูบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์แรงๆ หากเกิดอาการเจ็บปวดอย่างต่อเนื่องควรติดต่อโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
ลิขสิทธิ์ข้อมูลโดย www.oppame.com
Comments