คู่มือการดูแลตัวเองหลัง "ศัลยกรรมโครงหน้า"

การทำศัลยกรรมโครงหน้า คือ การศัลยกรรมเพื่อแก้ไขรูปทรงของใบหน้าในส่วนที่รู้สึกไม่มั่นใจ ในบางกรณีก็เพื่อการรักษา เนื่องจากมีรูปหน้าที่ผิดปกติจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และเมื่อเกิดการผ่าตัดก็จะต้องใช้เวลาพอสมควรในการดูแลบาดแผลให้ดีที่สุด เพื่อให้ใบหน้ากลับคืนสู่สภาวะปกติได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น สำหรับใครกำลังจะทำศัลยกรรมโครงหน้า หรือกำลังหาข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาก่อนการทำศัลยกรรม วันนี้อปป้ามีก็นำข้อมูลดี ๆ มาฝากกันแล้วค่ะ

การศัลยกรรมโครงหน้า เหมาะกับใครบ้าง?

1. คนที่มีโครงหน้าเบี้ยว ใบหน้าไม่สมส่วนกับโครงหน้า หรือรูปร่าง

2. คนที่มีโครงหน้ากลม หรือหน้าเหลี่ยม จนเกิดความไม่มั่นใจ

3. คนที่มีคางสั้น คางยื่น และใบหน้ายื่น

4. คนที่มีปัญฟันไม่สบกัน ฟันล่างคร่อมฟันบน จนส่งผลต่อการเคี้ยวอาหารในชีวิตประจำวัน

5. คนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้มีความสวยสมส่วนมากขึ้น

ผลข้างเคียงหลังการทำศัลยกรรมโครงหน้า

1. ในกรณีที่ผ่าตัดหลายจุด อาจจะต้องมีการใส่สายระบายเลือดที่ทำให้เกะกะต่อการลุก หรือการเดินเข้าห้องน้ำ

2. หากมีการผ่าตัดบริเวณปาก เมื่อบ้วนปากอาจมีเลือดซึมออกทางปากบ้างเล็กน้อย

3. การยุบบวมจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ บางรายใช้เวลา 1 - 2 สัปดาห์ถึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน

4. การผ่าตัดปรับรูปหน้าอาจมีผลกระทบต่อเส้นประสาท และมีผลข้างเคียง คือ ทำให้ปากชา แต่อาการนี้จะเป็นแค่ชั่วขณะเท่านั้น

5. การดูแลตัวเองตามที่แพทย์สั่งจะช่วยลดแผลติดเชื้อ แต่ทั้งนี้สามารถใช้ยาปฏิชีวนะธรรมดาในการรักษาได้ ซึ่งระยะเวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้

*** การศัลยกรรมทุกประเภทจะมีผลข้างเคียงมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ผ่าตัด การดูแลตนเองของคนไข้ก่อนผ่าตัด และอื่น ๆ อีกหลายปัจจัย ซึ่งในบางรายก็ไม่ได้มีผลข้างเคียงอะไรเลย และสามารถฟื้นตัวได้ทันทีหลังฟื้นจากการผ่าตัด

การดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมโครงหน้า

การศัลยกรรมโครงหน้าส่วนมากจะเป็นการศัลยกรรมที่จะมีการเปิดแผลภายในปาก เพื่อซ่อนรอยแผล เสริมซิลิโคน หรือกรอเอาเนื้อกระดูกออก แต่การเกิดแผลในช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นแผลเล็กหรือแผลใหญ่ก็ต้องได้รับการดูแล และรักษาความสะอาดให้ถูกวิธีเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อ ซึ่งการดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมโครงหน้า มีดังนี้

1. นอนโดยยกหัวสูงกว่าหัวใจประมาณ 30 องศา ใช้หมอน 2 - 3 ใบหนุนศีรษะ หรือใช้หมอนรองคอจะช่วยให้อาการบวมของใบหน้าลดลงเร็วขึ้น (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์ผู้ผ่าตัด)

2. สำหรับคนไข้ที่มีเทปติดที่คางสามารถเอาออกเองได้ (ประมาณวันที่ 3 หลังการผ่าตัด)

3. ประคบเย็นใน 3 - 4 วันแรก หลังการผ่าตัด เพราะการประคบเย็นจะช่วยให้เลือดจากการผ่าตัดภายในปากหยุดไหลเร็วขึ้น

4. วันที่ 5 - 6 หลังการผ่าตัด ให้เปลี่ยนเป็นการประคบอุ่น เพื่อช่วยลดอาการบวม

5. รับประทานอาหารอ่อน ๆ เช่น โจ๊ก ขนมปังเนื้อนิ่ม เต้าหู้ ไข่ตุ๋น เป็นต้น

6. งดอาหารที่ที่มีไฟเบอร์สูง เพื่อลดการเดินเข้าห้องน้ำ หรือท้องเสียในระหว่างการพักฟื้น

7. งดอาหารที่มีรสจัด อาหารหมักดอง อาหารที่มันจนเกิดไป และแอลกอฮอล์ทุกประเภท (ประมาณ 2 อาทิตย์หลังการผ่าตัด)

8. ดื่มน้ำอุ่น วันละ 1 ลิตร เพื่อลดอาการบวมของแผล อีกทั้งยังช่วยทำความสะอาดแผลในช่องปาก และลดเสมหะได้ด้วย

9. หมั่นบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าทุกชั่วโมง และบ้วนด้วยน้ำยาที่ทางโรงพยาบาลจัดให้ทุก 2 ชั่วโมง

10. เปลี่ยนมาใช้แปรงสีฟันที่มีขนาดเล็กลง เพื่อลดการอ้าปากกว้าง ๆ และไม่ให้แปรงไปกระทบกับบาดแผลภายในปาก

11. งดเว้นการแต่งหน้าล้างหน้าเพื่อไม่ให้แผลโดนน้ำ

12. งดการออกกำลังกาย 1 เดือนเป็นต้นไป หากต้องการขยับร่างกาย สามารถเดินช้า ๆ ต่อเนื่องได้

13. ดื่มน้ำฟักทองเพื่อช่วยลดอาการบวม เพราะว่าในน้ำฟักทองมีวิตามิน A ซึ่งจะช่วยรักษาอาการอักเสบ และช่วยลดอาการบวมได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นทริคการดูแลตัวเองที่นิยมมากในเกาหลี

การศัลยกรรมปรับรูปหน้าจะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ก็ต่อเมื่อลูกค้าได้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างถูกต้อง และใส่ใจต่อการดูแลตนเองอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น เพราะหากละเลย ไม่ทำตามก็อาจส่งผลให้แผลติดเชื้อ แผลแห้งช้า และอาจส่งผลต่อรูปหน้าที่ไม่ได้ดั่งใจตามที่คิดไว้ ดังนั้นหากใครที่อยากสวย อยากหล่อเป็นคนใหม่ที่ดุดีกว่าเดิมด้วยการทำศัลยกรรมโครงหน้า อย่าลืมดูแลตัวเองตามคำแนะนำของการดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมโครงหน้าที่เราเอามาฝากกันนะคะ

ลิขสิทธิ์ข้อมูลโดย www.oppame.com