เคสผ่าตัดขากรรไกร
ผ่าตัดที่ โรงพยาบาลอียู (eu oral & maxillofacial surgery)
ก่อนผ่าตัด
ใบหน้าของฉันเบี้ยวค่ะ แถวฟันไม่สบกัน เป็นเคสคางยื่น และใบหน้ายาวค่ะ
ตอนอายุ 12 ฉันไปคลินิกทำฟัน คุณหมอแจ้งยากต่อการแก้ไขด้วยการจัดฟันเพียงอย่างเดียว จะต้องผ่าตัดขากรรไกรเท่านั้น
ซึ่งคุณพ่อคุณหมอบอกว่าจะพาไปผ่าตัดขากรรไกรในภายหลังค่ะ ฉันเลยเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจมาตลอด
พอโตขึ้นก็ยิ่งเบี้ยวมากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นเคสคางยื่นอย่างหนักเลยค่ะ
ช่วงมัธยมต้นถูกเพื่อนล้อหนักจนฉันเครียด พอช่วงขึ้นมัธยมปลายก็ทำให้ฉันกังวลไปเรื่อยๆ
และเป็นเรื่องยากกับการพบปะผู้คนใหม่ๆ ฉันไม่ได้กลัวคนแปลกหน้า
แต่ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มีความกังวลกับคนที่ไม่รู้จักอย่างมาก
เหตุผลที่ทำศัลยกรรมขากรรไกร แน่นอนว่าอยากแก้ไขปัญหาการใช้ชีวิตไม่ว่าจะเป็นการออกเสียง
หรือการทานอาหารประเภทเส้น อีกอย่างหนึ่งคือเพื่อความงามค่ะ
ถึงแม้จะไม่ได้เครียดเรื่องการทำงานของขากรรไกรมากเท่าไหร่
แต่ภาพลักษณ์ภายนอกทำให้ฉันขาดความมั่นใจและส่งผลให้ความภูมิใจในตัวเองลดลงค่ะ
ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจทำศัลยกรรมขากรรไกรเพื่อความมั่นใจของฉันเอง
เหตุผลที่เลือกโรงพยาบาลอียู
คุณพ่อคุณแม่กังวลเรื่องความปลอดภัยมากเลยค่ะ
เลยเลือกโรงพยาบาลเฉพาะด้านกระดูกโครงหน้าและช่องปากมากกว่าโรงพยาบาลศัลยกรรมทั่วไป
ตอนเข้าไปโรงพยาบาลครั้งแรกตกใจมากค่ะที่เจอคนเยอะ ก็เลยไว้วางใจมากกว่าที่อื่นตั้งแต่เข้าไป
ระหว่างปรึกษา คุณหมอก็อธิบายจะออกมาเป็นอย่างไร สัดส่วนจะเป็นประมาณไหน
ซึ่งจะทำให้เข้ากับฉัน 100% ส่วนโรงพยาบาลอื่นจะพูดถึงการผ่าตัดโดยรวมเท่านั้น
นอกจากนี้ฉันเป็นจมูกอักเสบอย่างหนัก ซึ่งแตกต่างจากโรงพยาบาลอื่นๆ
ที่นี่แจ้งว่าให้ฉันรักษาจากศูนย์หูคอจมูกก่อนผ่าตัดค่ะ
ตอนนั้นเลยคิดว่าที่นี่แหละมีความปลอดภัย เป็นที่นี่เอง เลยทำให้ฉันเลือกโรงพยาบาลอียูค่ะ
วันผ่าตัด
ถ้าบอกว่าไม่เจ็บเลยสักนิดคงจะเป็นการโกหก
แต่ถึงอย่างนั้นไม่ได้รู้สึกเจ็บเจียนตายเลย รู้สึกเจ็บปวดแต่สามารถทนได้ค่ะ
คนอื่นๆเคยบอกว่าจะหายใจได้ลำบาก แต่สำหรับฉันไม่ได้ลำบากขนาดนั้นค่ะ
สิ่งที่ติดขัดมากที่สุดคือการที่เลือดออกบ่อยๆและมีอาการอาเจียนออกมา
ฉันรู้สึกคลื่นไส้เพราะยาสลบ สะดุ้งตื่นตอนเช้ามืดบ่อยๆ และลำบากที่บ้วนเลือดออกมา
หลังผ่าตัด 10 วัน
ฉันไปทำเลเซอร์ที่โรงพยาบาลบ่อยๆ แต่อาการบวมยุบไปไม่มากเลยค่ะ
ไม่รู้ว่าเป็นคนที่ยุบบวมได้ยากหรือเปล่า แต่ถึงอย่างนั้นไม่รู้สึกว่าอาการบวมเพิ่มขึ้นแล้ว
จากที่ใส่ไม่พอดี ตอนนี้ใส่เวเฟอร์ได้แล้ว และทานยาเป็นประจำค่ะ
วันนี้ทานยาที่เหลืออยู่วันสุดท้ายแล้ว ไม่รู้สึกติดขัดอะไรด้วย
หลังจากนี้อีกหลายวันต้องไปตัดไหมค่ะ ฉันเอาแต่เฝ้ารอวันนั้นอย่างเดียวเลย
หลังผ่าตัด 15 วัน
หลังผ่าตัดจนครบ 2 สัปดาห์ ฉันได้มาตัดไหมออกค่ะ
ตอนตัดไหมฉันกลัวว่าจะเจ็บ แต่จริงๆแล้วไม่เจ็บเท่าไหร่
ส่วนเวเฟอร์ที่ใช้อยู่ไม่พอดี ทางโรงพยาบาลเลยแก้ไขให้
จริงๆสามารถเวเฟอร์ออกได้ตั้งแต่ครบสัปดาห์ที่ 2 แต่ของฉันถูกสั่งแก้ไขใหม่
เลยต้องใส่ต่ออีก 2 สัปดาห์ ㅠㅠ เป็นการไดเอทอีกรอบค่ะ
หลังผ่าตัด 23 วัน
ฉันยกเลิกการสมัครฟิตเนสไปแล้วค่ะ และพยายามเดินบนลู่วิ่งออกกำลังกายประมาณ 1-2 ชั่วโมง
ปกติไม่ค่อยมีแรงอยู่แล้ว แต่หลังผ่าตัดมารู้สึกว่าแรงน้อยลงมากจริงๆ
รู้สึกเหมือนว่าเคลื่อนไหวได้ยาก ฉันก็เลยยกเลิกฟิตเนสไปเลย
ก่อนผ่าตัดจำเป็นต้องดูแลร่างกายค่ะ ไม่อย่างนั้นจะหมดแรงเหมือนกับฉัน
ไม่ต้องถึงกับออกกำลังอย่างหนัก แค่หมั่นเดิน ก็ทำให้รู้สึกมีเรี่ยวแรงขึ้นมาแล้ว เหมือนว่าจะต้องทำบ่อยๆแล้วค่ะ
หลังผ่าตัด 37 วัน
พอเลย 1 เดือน อาการบวมก็ยุบฮวบไปเลย!
ก่อนหน้านี้เวลาถ่ายเซลฟี่ ฉันจะต้องแต่งรูป ทำให้คางเล็กลงอยู่ตลอด แต่ก็ยังดูเบี้ยว
ส่วนปัจจุบันไม่ต้องแต่งรูปเลยค่ะ ถ่ายออกมาถูกใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่คาดฝันเลย ㅠㅠ
ก่อนผ่าตัดไม่กล้าทำผมเปิดหน้าผาก ส่วนตอนนี้ทำได้อย่างเผิดเผยแล้วค่ะ
จากที่เคยไว้ผมม้าและต้องใช้ผมมาปิดหน้า ตอนนี้เหมือนได้เกิดใหม่เลย
หลังผ่าตัด 53 วัน
ช่วงนี้ฉันยิ้มได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น และอ้าปากได้มากขึ้น
สามารถทานเคี้ยวอาหารทานอาหารได้เยอะ ยกเว้นของแข็งๆหรือเหนียว
หลังจากผ่าตัดมาทำให้ทานไม่ค่อยได้ รู้สึกเหมือนกระเพาะจะเล็กลงไปเยอะเลย
ก่อนผ่าตัดฉันลองลดปริมาณอาหารที่ทานดู ถือเป็นการคุมอาหารโดยอัติโนมัติ
ฉันดูมีเนื้อมากกว่าตอนถ่ายในช่วงที่น้ำหนักน้อยที่สุด แต่คนรู้จักก็บอกว่าดูผอมลงไปมาก
เหมือนจะได้สิทธิพิเศษจากการผ่าตัดมาเยอะ ใบหน้าดูซอฟต์ลง ได้ไดเอท
และยังได้ความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อนมากๆเลยค่ะ
หลังผ่าตัด 62 วัน
ครบ 2 เดือนแล้ว ตอนแรกมีฟันขึ้นมาซ้อนกันค่ะ
แต่หลังจากจัดฟันภายใน 1 เดือน แถวฟันก็ยุบตัวลง เห็นด้วยตาอย่างชัดเจน
ฉันได้ทำพาร์ทไทม์ที่ร้านสะดวกซื้อ ผู้จัดการร้านบอกว่าเลือกฉันเพราะหน้าตาดี
บางครั้งลูกค้าก็นำเครื่องดื่มมาให้ ฉันรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาเลย
ลิขสิทธิ์ข้อมูลโดย www.oppame.com
Comments