สวัสดีค่ะ ชื่อข้าวฟ่างนะคะ
กระทู้นี้เราจะมีรีวิวการศัลยกรรมของเราที่บินไปทำที่เกาหลี เพื่อประกอบการตัดสินใจของเพื่อนๆที่ยังลังเลนะคะว่าทำหน้าที่เกาหลีจะดีจริงมั้ย ปลอดภัยและคุ้มกับค่าใช้จ่ายหรือเปล่า
ช่วงนี้ถ้าพูดถึงศัลยกรรม ต้องนึกถึงเกาหลีก่อนเลยเพราะกระแสเขามาแรงมาก
ซึ่งเราก็คือคนหนึ่งที่โดนตกเข้าบ่วงศัลยกรรมเกาหลีอย่างจัง ฮ่าๆ เพราะจากการดูรีวิวหลายๆที่แล้ว เราชอบสไตล์ของเกาหลีมากกว่าค่ะ ละมุนๆดี
เหตุผลที่เลือกทำศัลยกรรม
ต้องบอกก่อนว่าไม่เคยคิดว่าตัวเองไม่สวยนะ ทุกคนมีความสวยเป็นของตัวเอง อย่างฟ่างคิดว่าตัวเองสวยนะแต่ยังไม่มากพอ พอเราเจอคนสวยเยอะๆเราก็รู้สึกว่าเรายังสวยได้อีก ถ้าแก้ไขบางจุดที่บกพร่องให้ดีขึ้นต้องสวยกว่านี้แน่ๆ เลยตัดสินใจทำศัลยกรรม
-> จุดแรกที่ต้องการแก้ไขเลยคือตา ฟ่างเป็นคนที่มีตาสองชั้นนะแต่ไม่เท่ากันซึ่งมันเห็นได้ชัดมากและเป็นอุปสรรคในการแต่งหน้ามาก เวลาทาอายแชโดว์ก็ต้องทาข้างนอกให้สูงกว่าอีกข้าง หรือกรีดอายไลเนอร์ให้หนากว่าอีกข้าง เวลาถ่ายรีวิวแต่งตาจะไม่สามารถถ่าย2ข้างพร้อมกันได้เลยเพราะมันไม่เท่ากัน เวลาดูจะเหมือนแต่งไม่เหมือนกัน
-> ต่อมาคือโครงหน้า คือรูปหน้ามันเรียวนะแต่สั้นๆและด้วยความมีแก้มเยอะทำให้เวลายิ้ม หน้ามันจะเหมือนแป๊ะยิ้มเลยไม่มั่นใจมากๆ เวลายิ้มฟ่างจะอมยิ้มนิดๆไม่งั้นบานชัวร์ ยิ่งช่วงไหนอ้วนคือเป็นก้อนมาก
-> สุดท้ายคือจมูก จริงๆฟ่างเคยทำมาแล้ว1ครั้งแต่อยากแก้มาก ไม่รู้ว่าสวยมั้ย แต่รู้สึกไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร ถ้ามีโอกาสได้แก้ก้อยากได้ที่ดูละมุนมากกว่านี้
+++ พอเรารู้ว่าอยากทำศัลยกรรมอะไร ต่อไปฟ่างก็หาข้อมูลโรงพยาบาลค่ะ ฟ่างปรึกษาหลายที่มากๆ ทั้งการโทรคุย และปรึกษาออนไลน์ ยอมรับว่าตัดสินใจยากอยู่เหมือนกัน เพราะแต่ละที่ก็ทำออกมาสวยทั้งนั้นเลย แต่สุดท้าย ฟ่างก็เลือกโรงพยาบาลบาโนบากิค่ะ เพราะเค้ามีศูนย์ให้คำปรึกษาที่เมืองไทยด้วย ซึ่งการติดต่อสอบถามก็จะค่อนข้างง่ายกว่ารพ.ที่อยู่เกาหลีอย่างเดียว แล้วก็อุ่นใจได้ด้วยค่ะว่าหากมีปัญหาอะไรขึ้นมา อย่างน้อยรพ.ก็ไม่หายไปไหน หรือไม่สามารถติดต่อได้อีกต่อไป เพราะเราเจอแหล่งที่ตั้งในไทยแล้ว ฮ่าๆๆๆ +++
เกริ่นมาเยอะแล้ว มาเริ่มดูรีวิวกันดีกว่าค่ะ
เราทำศัลยกรรม เย็บตาข้างซ้ายให้มีขนาดเท่าข้างขวา, แก้จมูก, โครงหน้ากรามคางโหนกแก้ม+ใช้กระดูกที่เหลือมาเติมร่องแก้ม ค่ะ
-> หลังผ่าตัด
หลังผ่าตัด ฟ่างได้นอนรพ.นะคะ ก็จะออกมาสภาพแบบนี้ค่ะ ดูเหมือนน่ากลัวแต่ว่าสามารถพูดคุยได้ เดินไปห้องน้ำได้สบายมากค่า
-> หลังผ่าตัดวันที่ 1
วันนี้ถอดสายเดรนเลือดในปากและออกจากรพ.ได้ค่ะ หน้าบวมหนักมาก เต่งตึงเหมือนหน้าจะแตก555555 อ้าปากกับกลืนลำบากหน่อยเพราะหน้าบวม กินได้แต่ของเหลวที่เป็นน้ำ (ฟ่างกินนมถั่วเหลือง) เพราะกลืนลำบาก นมถั่วเหลืองที่นี่อร่อยมาก กินอิ่มกว่านมปกติแต่ก็ต้องกินตลอดเพราะมันไม่ค่อยอิ่มมาก เนื่องจากพึ่งออกจากรพ. เลยยังไม่ได้เดินออกไปไหนไกล นอกจากเดินไปซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อไม่ไกลจากที่พักและเต้นอยู่ในห้อง
วันที่ 2 หลังผ่าตัด
หน้าบวมคงที่ ตึงน้อยลง เพราะเมื่อวานหน้าขยาย พาสเตอร์ที่แปะหน้าไว้มีการขายตาม ทำให้เห็นกาวโผล่ วันนี้กินนมถั่วเหลืองเหมือนเดิมแต่เพิ่มอาหารเหลวที่เป็นข้าวโอ๊ตกับมันฝรั่งไปด้วย อันนี้จะหวานหน่อย ไม่ได้เหลวเป็นน้ำ พอมีอะไรให้หนึบๆในปาก ปากหุบได้มากขึ้น พูดได้เยอะขึ้น รู้เรื่องขึ้น อาการวันนี้ไม่ปวดเหมือนเมื่อวาน นอนหลับได้มากขึ้นและสบายขึ้น
วันที่3 หลังผ่าตัด
อาการบวมลดลง ตอนเช้ากับบ่ายกินน้ำแอ๊ปเปิ้ลแบบซอง (*ห้ามใช้วีธีดูดเด็ดขาด*ให้ยกดื่มหรือเทใส่ปากแทน) +ขนมปัง (ให้เลือกแบบที่นิ่มๆ) ตัดให้เล็กที่สุด เวลากินและกลืนจะได้ง่าย ไม่ต้องเคี้ยวเลย จริงๆอาบน้ำได้ด้วยนะ แค่ระวังอย่าให้น้ำโดนแผล วันนี้แกะพาสเตอร์ที่แปะตรงคางออกแล้ว ตอนบ่ายมีไปเช็คอัพกับคุณหมอ คุณหมอบอกว่าแผลตรงจมูกไม่มีปัญหาอะไร ส่วนตาถ้าหายบวมมันจะยุบลงมาเกือบเท่ากันเลย คุณหมอยิ้มพอใจมาก ทางนี้ก็ดีใจมาก ต้องออกมาสวยแน่ๆ55555555 ตอนเย็นอัพเลเวลทานโอเด้ง ตัดเป็นชิ้นเล็กๆซดกับน้ำซุปคือฟินลื้ม กลืนได้เลยไม่ต้องเคี้ยว สิ่งสำคัญคืออย่าลืมบ้วนปากให้สะอาดด้วย การเดินเยอะๆ+ประคบเย็นบ่อยๆจะช่วยลดอาการบวมได้ดี วันนี้ฟ่างเลยไปเดินช็อปที่ใต้ดินสถานีกังนัมมา ของเยอะมาก
วันที่ 4 หลังผ่าตัด
ไม่เจ็บไม่ปวดอะไรเลย สบายขึ้นเยอะ วันนี้มีไปเช็คอัพกับคุณหมอโอ ทำCT Scan แถมมีทำแผล ถอดเฝือกจมูกและตัดไหมตรงหน้าจมูกด้วย ตัดไหมนี่ไม่ได้ทำใจไปเลย เจ็บมาก ร้องไห้เลย แต่พอตัดแล้ว โล่ง. สบายจมูกขึ้น พี่พยาบาลพาไปอบอ็อกซิเจนบริสุทธิ์และฉายแสงลดบวมด้วย ประทับใจในความครบเครื่งของทางรพ.มากๆ ใครมาทำศัลยกรรมที่นี่บอกเลย หายห่วง วันนี้ได้สระผมครั้งแรก ตื่นเต้นมาก นี่ก็รีบสระรีบเป่าให้แห้งกลัวแผลมีปัญหา (*ต้องนอนสระนะคะ ห้ามก้มสระเด็ดขาด) ส่วนอาหาร วันนี้ลองทานคล้ายๆพุดดิ้ง รสนมถั่วเหลือง เห็นมันน่าจะทานง่าย ก็เลยเลือกตัวนี้มา ทานง่าย กลืนง่ายแต่รสจืดไปหน่อย ปล.อย่าใส่ซอสที่ให้มาเชียว แบบไม่อร่อย
♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡
วันที่ 5 หลังผ่าตัด
ไม่รู้ว่าเพราะต้องเดินทางกลับไทยไม่ได้ประคบเย็นหรือทานยามั้ย โครงหน้าบวมมากแต่ตรงโหนกยุบลงเยอะแล้ว งงมาก พอเข้าไทยปุ๊บเหมือนตัวประหลาด ไม่เข้าใจคนทำศัลยกรรมหรอย่ะ!!! ที่เกาหลีนี่ไม่มีใครสนใจเลย เรื่องปกติมาก ทำใจเนาะ กลับถึงปุ๊บที่ดีใจที่สุดมากคือได้ทานอาหารไทยแล้ว555555 พอครบ 5 วัน เราสามารถทานอาหารอ่อนๆที่มีอะไรๆขึ้นมาได้ เช่น ก๋วยเตี๋ยวเส้นนุ่มๆ โจ๊กหรือซุป เป็นต้น ฟ่างเลือกทานโจ๊ก รู้สึกว่าอ้าปากได้เยอะขึ้น ทานง่ายกว่าวันก่อนๆ วันนี้ลองขัดหน้าครั้งแรกเพราะพี่ๆที่ดูแลบอกว่า หลังจากศัลยกรรมหน้าเราจะแต่งหน้าไม่ติด ต้องสครับเอาเซลฟ์ผิวที่แห้งออกก่อน จะบอกว่าเป็นการสครับหน้าที่เบาที่สุดในโลก5555555 อึ้งมากตอนสครับเสร็จหน้าลอกเป็นขุยเลย ฟ่างก็รีบลงครีมบำรุงตามปกติเลย มาลุ้นกันว่าพน.จะแต่งหน้าติดมั้ยนะ
วันที่ 6 หลังผ่าตัด
หน้าบวมค่อยๆลดลงเรื่อยๆ หุบปากได้สนิทแต่จะติดพูดไม่ค่อยชัดหน่อยแต่ฟ่างพยายามฝึกออกเสียงให้ชัด เพื่อให้คนฟังเข้าใจที่เราพูด แฟนมักจะบ่นว่า พูดอะไรของมึ้งงง55555555 วันนี้ได้ลองแต่งหน้าครั้งแรกหลังจากผ่าตัด ขอบอกว่ายากกว่าที่คิดมาก เนื่องจากตอนศัลยกรรมผิวเราไม่ได้รับการดูแลเลย ทำให้ผิวหน้าไม่ค่อยโอเค ทั้งแตกเป็นขุยและไม่เรียบเนียนแถมการปกปิดรอยบวมช้ำต้องลงหลายขั้นและหนาหน่อย ซึ่งมันจะไม่ค่อยมีความธรรมชาตินะแต่สวย5555555 แนะนำสำหรับคนที่ไม่ต้องออกไปพบปะคนหรือทำงาน ไม่ต้องแต่งหน้า ให้บำรุงผิวให้ดีก่อนค่อยแต่งตอนหน้าหายบวมยังไม่สาย อาหารฟ่างลองทานก๋วยเตี๋ยวดูแต่ต้องบอกแม่ค้าลวกเส้นให้นุ่มๆหน่อย บอกเลยว่ากลืนสบายมาก
ครบ 1 อาทิตย์แล้ว
โครงหน้ามีตึงๆอยู่บ้างแต่บวมน้อยลง ยังคงเหลือรอยช้ำเขียวๆเหลืองๆอยู่บ้างแต่ไม่มาก เริ่มอ้าปากเคี้ยวอะไรได้มากขึ้น พูดรู้เรื่องแบบไม่ต้องพยายาม มีไปตัดไหมโครงหน้ามา(ไหมตรงแถวจอนผม) พยาบาลมือเบามาก ไม่รู้สึกอะไรเลย เค้าบอกว่าคุณหมอทำเนี๊ยบมากแต่ยังจะเหลือรอยอยู่นิดหน่อย พอเวลาผ่านไป แผลจะปิดและหายไปเอง วันนี้หน้าสดไปอีเว้นท์ ทุกคนชมกันเยอะว่าบวมน้อย ใกล้สวยแล้ว หน้าบานเลยทีเดียว ไปทานข้าวกับเพื่อนๆได้ลองกินมาม่าไข่ลาวา เลยได้เมนูเพิ่มอีกอันที่กินง่าย กลืนง่าย โดยไม่ต้องอ้าปากหรือเคี้ยวเยอะให้เปลืองแรง (ยิ่งเส้นและไข่นุ่มเท่าไหร่จะเป็นผลดีต่อเรา) อย่าลืมบ้วนปากให้สะอาดด้วย
วันที่8 หลังผ่าตัด
วันนี้นอกจากจะบวมน้อยลง หน้าไม่ตึงแล้ว ยังยิ้มได้เยอะขึ้นและสามารถดูดน้ำได้อีกด้วย ปกติจะไม่สามารถดูดได้เลย เคี้ยวอะไรได้เยอะขึ้นโดยไม่รู้สึกเจ็บหรือปวด วันนี้ได้ทานbreakfastแบบผสมทั้งอาหารไทยและฝรั่ง กินได้หมดทั้งยังกินไส้กรอกได้อีก (แต่ต้องเป็นไส้กรอกแบบนุ่มๆ)
ของกินในวันที่ผ่านมาค่า
วันที่ 9 หลังผ่าตัด
วันนี้บวมน้อยลงแต่ยังเหลือรอยเหลืองและรอยช้ำอยู่ เปลี่ยนจากประคบเย็นมาประคบอุ่นแทน
ฟ่างใช้ไข่ต้มให้อุ่นแล้วห่อผ้าประคบบริเวณที่ยังมีรอยช้ำ (การใช้ไข่ต้มจะทำให้อุ่นนาน)
ส่วนโครงหน้าก็ประคบเย็นลดบวมเหมือนเดิม
วันนี้อยากลองทานผักบ้าง เลยผัดผักบุ้งใส่หมูสับและต้มข้าว ปรากฏว่ากินได้ เคี้ยวนิดหน่อย ไม่กลืนยากหรือติดไหมแบบที่คิด (แนะนำให้ทานคำเล็กๆเคี้ยวๆกลืนจะโอเคมากกว่า) ก็ได้ของกินอีกอย่างแทนเมนูเส้นที่กินทุกมื้อจนจะเบื่อแล้ว55555555555
วันที่ 10 หลังผ่าตัด
ไปตัดไหมที่ในจมูกและหลังหู รู้สึกโล่งมาก เหมือนหายใจได้กว้างขึ้น555555
เจ็บๆนิดหน่อยแบบน้ำตาเกือบไหล ยิ้มได้มากขึ้น หน้าดูธรรมชาติขึ้น แต่งหน้านิดๆดูดีกว่าตอนแรกที่แต่งเยอะ ไม่ค่อยปลอมเท่าไหร่
อาหารก็ยังคงเป็นเมนูเส้นเหมือนเดิม ยังไม่กล้าลองเสี่ยงทานข้าวกลัวเศษข้าวติดไหม
ปล.ไหมในปากเยอะมาก แอบเปิดดู คิดตอนตัดไม่ออกเลย หุ้ยยยยยย
วันที่ 11 หลังผ่าตัด
โอ้ยยยยย ตื่นเต้นๆ หน้าจะหายช้ำแล้ว รอยเหลืองกับรอยช้ำเหลืออย่างละนิดเท่านั้น
เท่าที่สังเกตุตอนนี้คือชอบจมูกมาก อาจจะไม่พุ่งเว่อแต่ดูธรรมชาติ เข้ากับใบหน้าสุด
หน้ายังบวมอยู่อยากให้ยุบไวไว
อาหารการกินแอดวานซ์ขึ้น ทานผัดกะหล่ำดอกแหละ (ต้องผัดให้อ่อนๆชิ้นไม่ใหญ่มากจะกินง่าย) เพราะเคี้ยวได้เยอะแต่อ้าปากกว้างมากไม่ได้ ถ้าอ้ากว้างมากๆจะมีอาการปวดหนึบๆอาจจะต้องรอเวลาเพราะจะมีให้ฝึกอ้าปากด้วย
💗💗💗💗💗
ของกินในแต่ละวันค่า
วันที่ 12 หลังผ่าตัด
หน้ายังบวมเหมือนเดิมแต่รอยช้ำเกือบหายครบ100%แล้ว วันนี้ลองถ่ายงาน. ก็ต้องฝึกพูดให้ชัดไม่งั้นฟังไม่รู้เรื่องเพราะยังไม่ได้ตัดไหมในปากและยังอ้าปากกว้างมากไม่ได้ อาหารขอทานข้าวต้มละกันเพราะเมื่อวานอ้าปากกว้างไปหน่อยด้วยความเห็นแก่กิน มีความปวดกรามนิดๆ วันนี้ขอเลี่ยงค่ะ555555
วันที่ 13 หลังผ่าตัด
รอยช้ำหายหมดแล้ว ตรงช่วงจมูกเหลือแต่รอยช้ำตรงบริเวณตาอีกนิดหน่อย ฟ่างประคบอุ่นทุกวันเพื่อลดอาการช้ำ ช่วยได้มากจริงๆ วันนี้ลองแต่งหน้าแบบปกติ แม่เจ้า สวยมากเว้ย นี่ขนาดยังไม่หายบวมและยุบ มันสวยจริงๆ ไอเลิฟ ยิ้มหน้าบานไปเลย
ส่วนอาหารก็กินผัดมาม่าเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือเปลี่ยนรส555555555
วันที่ 14 หลังผ่าตัด
ครบ 2 อาทิตย์แล้ว วันนี้มีไปตัดไหมในปาก กลัวมากแม่ ไหมยาวเป็นแถบเลย พอถึงเวลาขึ้นเขียง เจ็บมากแม่ พี่พยาบาลบอกหมอเย็บถี่ยิบ แถมติดเหงือกเลย หมอรักหนูจริงๆ😂 ทั้งเหงือกบน ล่างข้างใน อมก.กว่าจะตัดเสร็จกลัวตัวเองจะหัวใจวายก่อน แต่ดีใจที่รอดมาได้ค่ะ5555555
จากนี้จบแล้ว รอยุบ รอสวยอย่างเดียว แต่งหน้าได้ เนียนกริบมีความสุขแล้วค่ะอาหารวันนี้ขอทานข้าวต้มอ่อนๆยังเสียวกับการตัดไหมยังไม่หาย
1 เดือน หลังผ่าตัด
ครบ 1 เดือนแล้ว เย้ๆๆๆ หน้าเข้าที่มากขึ้นตรงคางจะเห็นชัดที่สุด แต่ตรงกรอบหน้ายังมีความบวมอยู่ มันเลยกลมๆเห็นไม่ค่อยชัด ตรงตาไม่แน่ใจว่าบวมอยู่มั้ย เห็นดูบวมๆอยู่เลยรอให้เข้าที่ก่อน
อาการเจ็บปวดไม่มีแล้ว นอกจากจะเคี้ยวเยอะเกินก็มีปวดบ้าง ตากับจมูกเวลาเช็ดเครื่องสำอางก็มีปวดนิดหน่อย แต่โดยรวมดีขึ้นเรื่อยๆมีแต่คนชมหน้าหวานขึ้น
ช่วงนี้ฟ่างก็จะรัดหน้าตลอด แต่พอรัดนานๆก็จะมีอาการปวดบ้าง อ้าปากยังไม่ได้กว้างมาก แต่พูดชัด รู้เรื่อง กินได้ทุกอย่างที่ไม่เคี้ยวมากเกิน
😍😍
วันนี้ลองแต่งหน้าแบบหวานๆดู ชอบมากเลยถ่ายรูปไว้เยอะเลย ลุคสาวหวานก็ได้อยู่นะ อิอิ
วันนั้นลองแต่งเป็นเจนนี่ แบล็คพิ้งค์555555 หลังจากทำหน้ามาแล้วอยากลองเปลี่ยนลุค แต่งหน้าหลายๆ แบบดูบ้าง พอจะคล้ายบ้างมั้ยน้า
มาอัพเดทรูปเซลฟี่หลังศัลยกรรมโครงหน้า(กราม+คาง+โหนกแก้ม), แก้จมูก และ ทำตาข้างขวา (ให้เท่ากับข้างซ้าย) ของข้าวฟ่างกันค่า Go Go!
หลังศัลยกรรม 1เดือน 10วัน
หลังศัลยกรรม 2เดือน 10วัน
ลองแต่งหน้าแบบอื่นดูบ้าง แฮ่ๆ
หลังศัลยกรรม 3เดือน
ครบ 3 เดือนแล้ว จริงๆฟ่างไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะชิวมากๆตั้งแต่เดือนแรก5555555
คือแบบบวมน้อย ช้ำน้อยมากตั้งแต่เคยศัลมา หมอมือเบาจริงๆ ฟ่างชอบที่หน้าหวานขึ้นแต่แต่งแซ่บก็ได้นะ ทุกอย่างดูธรรมชาติมากๆ ส่วนตัวฟ่างค่อนข้างชอบจมูก เพราะหมอทำปลายให้พุ่งได้ใจแต่ไม่ได้เสี่ยงต่อการทะลุนะ ตอนนี้เริ่มชอบตามากขึ้นเพราะชั้นตาชัด แต่งตาง่ายมาก หมอทำให้ค่อนข้างเท่ากัน ส่วนโครงหน้ามุมตรงยังกลมอยู่555555แต่มุมข้างแบบเรียวเลย เห็นคางชัด กรอบหน้าชัดแต่เหนียงใต้คางยังเหลือเยอะและย้วยอยู่ คงต้องรอมันกระชับเข้าที่มากกว่านี้ ไม่มีอาการเจ็บหรือปวดที่แผลแถมแผลเป็นเล็กๆจากการเย็บที่โครงหน้าแบบหายไปเลย ว้าวมาก
อาหารการกิน กินได้ทุกอย่าง เคี้ยวได้หมดไม่มีปัญหา ตอนนี้รักหน้าตัวเองมาก แบบแก หน้าสดก็ยังสวยอะ5555555 เหมือนคิดเข้าข้างตัวเองนะแต่จริง แบบทุกอย่างดี ตอนนี้อาจจะเห็นไม่ชัดแต่คิดว่า 6 เดือน-1ปี เป๊ะแน่นอน
ครบ 6 เดือนแล้วจ๊ะพี่จ๋า กรี๊ดดดดดดดด
รอคอย นับเวลาทุกวัน5555555 ไปไหนมีแต่คนทักหน้าเรียว หน้าเรียวจังเลย สวยหวานมาก สวยละมุนมาก สวยมาก! โอ่ยยยยย เขินจนจะเป็นบ้า555555
สิ่งที่ทำให้ลุคเปลี่ยนสุดคงจะเป็นตาสองชั้นที่เท่ากัน แต่งตาได้ง่ายได้สวยขึ้น เข้ากับงานเราที่ต้องรีวิวและใช้หน้าตาตลอด และจมูกที่ดูโด่งธรรมชาติเหมือนไม่ได้ทำ! จากตอนแรกที่เหมือนจมูกหมู พอแก้ปุ๊บ เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
โครงหน้าต้องบอกตามตรงว่าฟ่างไม่ค่อยรู้สึกอาจเพราะเห็นหน้าตัวเองทุกวันแต่คนรอบข้างมักจะทักตลอดว่าหน้าเรียวขึ้น แถมเวลายิ้มแทบไม่เห็นร่องแก้มส่วนที่คุณหมอเติมเต็มให้เลยทำให้เราดูเด็กไปอีก ตลอดระยะเวลาที่ทำมา อาจจะติดขัดในเรื่องการพูดช่วงแรกๆแต่พอผ่านช่วงนั้นมาได้ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย ยิ่งรอยแผลเป็นไม่ต้องพูดถึง กริบมากเหมือนไม่เคยผ่านการผ่าตัดมา อยากขอขอบคุณบาโนบากิที่เนรมิตความสวยธรรมชาตินี้ให้ ประทับใจในการบริการ การดูแลและฝีมือคุณหมอทุกคน
หมายเหตุ ภาพ Before After บนเว็บไซต์ ทั้งหมด ผลลัพธ์ขึ้นอยู่แต่ละบุคคลแตกต่างกันออกไป และราคาหรือโปรโมชั่นศัลยกรรมและความงามอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อนรับบริการ สามารถอ่านเงื่อนไขได้ที่ เงื่อนไขการให้บริการ
번역 저작권자 - Oppa Me Global 성형외과 미디어 플랫폼
Kommentare