7 ข้อปฏิบัติ How to การดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมหน้าอก
การผ่าตัดเสริมหน้าอกอาจใช้เวลานานในการพักฟื้น ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คนไข้ควรตระหนักถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น และต้องดูแลตัวเองในช่วงพักฟื้น
ซึ่งก็อาจจะเป็นเรื่องปกติที่หลังการผ่าตัดอาจมีอาการปวด บวม และอาการอื่น ๆ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องปกติและจะหายไปเองภายในสองสามวัน
อย่างไรก็ตาม หากมีอาการผิดปกติหลังการผ่าตัด เช่น มีเลือดออกหรือรู้สึกแน่นหน้าอกมาก อาจเป็นสัญญาณว่ามีบางอย่างผิดปกติ โดยหลังการผ่าตัด คนไข้ควรดูแลแผล และหลีกเลี่ยงการกระทำที่จะทำให้แผลหายช้าลง
วันนี้ เราจึงมีแนวทางวิธีการดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมหน้าอกมาฝากกัน
1. สวมซัพพอร์ตบราหลังเสริมอก ไม่ควรโนบราหลังทำหน้าอก
หลังจากการผ่าตัดเสริมหน้าอกเสร็จแล้ว แพทย์จะพันผ้าพันไว้ และสวมซัพพอร์ตบราเพื่อให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม วิธีนี้จะช่วยไม่ให้ซิลิโคนเคลื่อนตัวและลดความเจ็บปวด อย่างไรก็ตาม ควรสวมซัพพอร์ตบราที่ออกแบบมาสำหรับกรณีเสริมหน้าอกเท่านั้น และไม่ควรสวมสปอร์ตบราออกกำลังกายแทนซัพพอร์ตบราเด็ดขาด
2. นวดหน้าอกตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
แม้ว่าไม่มีการกำหนดความถี่ในการนวดหน้าอกหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอกก็ตาม แต่ความถี่จะขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีของหรือแต่ละคน และประเภทของอาหารเสริมที่ใช้ ซึ่งศัลยแพทย์บางท่านอาจจะแนะนำให้นวดหน้าอกวันละครั้ง หรือบางท่านก็อาจจะให้นวดวันเว้นวัน แต่ท้ายที่สุดแล้ว ก็จะขึ้นอยู่กับผู้ป่วยในการตัดสินใจว่าจะนวดเองหรือไม่ แต่กระนั้น ผู้ป่วยก็ไม่ควรนวดด้วยตัวเองสุ่มสี่สุ่มห้าโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อนเด็ดขาด
3. หลีกเลี่ยงการใช้แรงแขน งดกิจกรรมออกแรงเยอะ
หน้าอกเป็นบริเวณที่เปราะบางใกล้กับแขน และการศัลยกรรมหน้าอกอาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บภายในได้ ฉะนั้น การออกกำลังกายมากเกินไปก็อาจทำให้กระบวนการสมานแผลช้าลง เนื่องจากมีความเสี่ยงที่แผลจะฉีกขาดหรืออักเสบได้ จนสามารถทำให้เกิดความเจ็บปวดมากขึ้น ฉะนั้น ผู้ป่วยไม่ควรยกของหนักหรือทำกิจกรรมที่ใช้กำลังแขนมากเกินไป หรือแม้แต่การเดินทางไกลก็อาจจะทำให้ลำบากด้วยเช่นกัน
4. นอนให้ถูกท่า
การนอนหงายในช่วง 3 วันแรก จะช่วยลดอาการบวมได้ หลังจาก 7 วันถึง 6 สัปดาห์ ก็มีการแนะนำจากแพทย์ให้นอนหงาย อย่านอนตะแคงหรือนอนคว่ำเด็ดขาด เพราะวิธีนี้จะช่วยให้หน้าอกของคุณคงรูปตามธรรมชาติและสวยงามตามแผนนั่นเอง
5. รับประทานยาและทายาที่แพทย์แนะนำ
หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก คนไข้มักจะได้รับยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบมาทาน ยาเหล่านี้อาจจะช่วยลดความเจ็บปวดและการอักเสบได้ดี ซึ่งส่วนมากก็ควรรับประทานยานี้เป็นเวลา 4 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด และแพทย์เองก็อาจจะมีการแนะนำให้ใช้ครีมหรือขี้ผึ้งประกอบด้วย ซึ่งผู้ป่วยเองก็อาจจะต้องหลีกเลี่ยงการสวมเสื้อผ้าที่รัดแน่น รักษาแผลให้สะอาด และแห้งอยู่เสมอ ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างระมัดระวังในช่วงเวลานี้ เพื่อให้แน่ใจว่าจะฟื้นตัวได้เร็วมากขึ้นนั่นเอง
6. เลือกกินอาหารให้เหมาะสม งดดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
ก่อนการผ่าตัด มักจะมีอาหารบางอย่างที่คนไข้ไม่ควรรับประทาน เพราะอาจจะเกิดอันตรายในระหว่างการผ่าตัดได้ ซึ่งนั่นก็คือ อาหารทะเล อาหารรสเค็ม และอาหารที่ไม่สะอาด โดยเฉพาะคนที่ชอบกินหมูกะทะ ก็ต้องงดก่อน เพราะการรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ จะทำให้แผลหายช้าลง และยังทำให้เชื้อโรคเข้าสู่บาดแผลได้ง่ายขึ้นอีกด้วย อีกทั้ง อาหารทะเล และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเองก็จะมีโซเดียมสูงเป็นพิเศษ เมื่อรับประทานเข้าไปอาจทำให้เกิดอาการบวม และติดเชื้อมากกว่าเดิมได้
นอกจากนี้ การดื่มแอลกอฮอลล์ และการสูบบุหรี่จะทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจจะต้องงดดื่ม และสูบก่อนประมาณ 1 อาทิตย์ เพราะการกระทำเหล่านี้ อาจจะทำให้แผลหายช้าลง และคนไข้บางรายก็เกิดเป็นรอยแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ก็มีมาแล้วเช่นกัน
7. พบแพทย์เมื่อมีนัด หรือมีความผิดปกติ
หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอกคนไข้ต้องมาพบแพทย์ตามนัดเป็นระยะเพื่อตรวจดูแผลเป็น และระหว่างพักฟื้นอาจมีอาการปวด บวม ช้ำ หรือมีเลือดออกบริเวณนั้นร่วมด้วย หากมีอาการแดง บวม มีน้ำเหลือง หรือมีตุ่มแข็งที่บริเวณหน้าอกภายใน 7 วันหลังการผ่าตัด ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์ทันที
แม้ว่าการดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมหน้าอกจะยุ่งยาก และมีข้อห้ามเยอะแยะมากมายแล้ว แต่หลังการศัลยกรรมหน้าอก ก็อยากแนะนำว่าไม่ควรเก็บตัวนอนอย่างเดียว ควรบริหารร่างกายด้วยการเดินเบา ๆ ซึ่งจะทำให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น และยังทำให้อาการบวมลดลงอย่างรวดเร็วอีกด้วยนะคะ
ลิขสิทธิ์ข้อมูลโดย www.oppame.com
Коментарі